Category ข่าววันนี้

BMW ซีรี่ย์3 เผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ BMW i Vision Dee หนแรกในโลกที่งาน Consumer Electronics Show (CES) 2023 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่า เป็นเวอร์ชันต้นแบบของ “ซีรี่ย์ 3” เจเนอเรชันต่อไป ที่มาพร้อม ขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100%

BMW i Vision Dee เป็นรถยนต์ซีดาน ขนาดกลาง (Mid-size) ที่มีรูปลักษณ์อันล้ำสมัย โดยที่ Dee ย่อมาจากคำว่า “Digital Emotional Experience” ที่เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน แล้วก็รถยนต์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

ชูไฮไลต์ด้วยเทคโนโลยี BMW Head-Up-Display ที่สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ ทอดยาวตลอด ความกว้างของกระจกบังลมหน้า แทนการใช้จอปกติ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู ระบุว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะถูกนำไปติดตั้ง กับรถยนต์โปรดักชัน ที่ใช้แพล็ตฟอร์ม NEUE KLASSE สำหรับวางขายจริง ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

BMW ซีรี่ย์3 เทคโนโลยีแสดงข้อมูลแบบ HUD

ดังกล่าวปฏิบัติการร่วมกับ ระบบสั่งงานแบบ BMW Mixed Reality Slider ที่อาศัยเซ็นเซอร์ บนแผงคอนโซล เพื่อใช้สำหรับการควบคุมข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ HUD ผ่านการสัมผัสด้วยปลายนิ้ว ไม่ว่าจะ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการขับขี่, คอนเทนท์ด้านระบบสื่อสาร และเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม หรือ Augmented Reality เป็นต้น

นอกจากนี้ คนขับขี่แล้วก็ผู้โดยสาร ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ แบบดิจิทัลของ BMW i Vision Dee ได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ผ่านส่วนประกอบทั้งด้านกราฟิก, ไฟส่องสว่าง และก็เสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ

ตัวอย่างเช่น ไฟหน้าแล้วก็กระจังหน้าไตคู่แบบปิดทึบ ถูกพัฒนาให้ มีลักษณะเป็น “Phygital” (เกิดจากการรวมกันของคำว่า Physical รวมทั้ง Digital) ที่มีลักษณะคล้ายหน้าจอ สำหรับตอบโต้กับมนุษย์ หรือแสดงอารมณ์ในเวลานั้นได้

ตัวถังข้างนอกของ BMW i Vision Dee ยังสามารถเปลี่ยนสีได้เองโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยเทคโนโลยี E Ink คล้ายกับที่พบใน BMW iX Flow ซึ่งเคยเปิดตัวในงาน CES 2022 ครั้งก่อน แต่คราวนี้บีเอ็มดับเบิลยู ได้เพิ่มสมรรถนะให้ปรับเปลี่ยน สีตัวถังได้ถึง 32 สี

บนพื้นที่ที่ถูกแบ่ง แยกออกเป็นทั้งหมด 240 ส่วน (จากเดิมที่มีเฉพาะสีดำและสีขาว ซึ่งสามารถผสมกัน กลายเป็นสีเทาได้อีกหลายเฉด) ทำให้คนขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ ตามใจชอบในเวลาเพียงชั่วอึดใจแค่นั้น

ด้านในห้องโดยสารของรถคันนี้

ยังถูกดีไซน์ให้ลดการใช้ วัสดุที่ไม่จำเป็น ควบคู่ไปกับการลด จำนวนปุ่มควบคุม รวมทั้งตัดหน้าจอแบบเดิมออกไป ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู บอกว่าจะช่วยให้ผู้ขับขี่ สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ ดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมาพร้อมพวงมาลัย ดีไซน์แปลกตา ที่ติดตั้งก้านแนวตั้ง บริเวณกึ่งกลางของพวงมาลัย

ก่อกำเนิดจุดสัมผัส ที่จะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อคนขับขี่ใช้ปลายนิ้ว สัมผัสแค่นั้น ทั้งนี้การออกแบบดังกล่าว ยังช่วยสนับสนุนแนวความคิด “มืออยู่บนพวงมาลัย, ตาจ้องมองไปยังถนน” เพื่อความปลอดภัยสำหรับการขับขี่สูงสุดนั่นเอง

งานวิศวกรรมสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ พร้อมแบตเตอรี่ ที่มีความหนาแน่นขึ้น 20% ชาร์จเร็วขึ้น 30% รวมทั้งวิ่งไกลขึ้น 30% ยิ่งไปกว่านี้ในเวอร์ชั่น M ยังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ถึง 4 ลูกเพื่อรองรับ แบตเตอรี่แบบ Solid State อีกด้วย

แม้ว่าจะเป็นเพียง รถต้นแบบเท่านั้น แต่ว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่รายละเอียดบางส่วน ที่จะนำมาใช้ในรถขายจริง ตามนโยบาย NEUE KLASSE ทั้งยังกระจกหน้าต่าง แบบใหม่ จะนำมาใช้ใน i3 รุ่นถัดไป, งานวิศวกรรมที่จะเริ่ม ใช้ใน 3-Series Sedan รวมทั้ง iX3 โฉมใหม่ ได้มีแผนที่ จะผลิตในโรงงานใหม่ Debrecent ประเทศฮังการี ในทศวรรษนี้ (ราว ๆ ปี 2030) ตามมาด้วยในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีในปีถัดไป

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า BMW i Vision Dee จะถูกต่อยอดเป็น 3 Series ขุมพลังไฟฟ้า 100% ในอนาคต ซึ่งจะถูกเปิดตัวในปี 2025 ที่จะถึงนี้

News ข่าวรถยนต์รถใหม่เปิดตัว BMW i Vision Dee รถต้นแบบไฟฟ้า แห่งอนาคตในงาน CES 2023

BMW เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ BMW i Vision (BMW i Digital Emotional Interaction Concept Car (Dee)) ในงานมหกรรมรถยนต์ International Consumer Electronics Show (CES) ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 5 – 8 มกราคม 2023

BMW i Vision Dee เปิดตัวครั้งแรกในโลก โดยใช้แนวความคิดการปฏิสัมพันธ์ ทางอารมณ์แบบดิจิทัล BMW i เป็น Digital Emotional Experience สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมทั้งยังชี้ให้เห็นวิสัยทัศน์ของ BMW Group ที่มุ่งมั่นการสร้างยานยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคต ภายใต้แนวความคิด “less is more”

BMWiVisionDee Concept อีกหนึ่งสีสันของบูธ BMW ข้างในงาน CES 2023 ตัวรถได้รับการออกแบบ ในรูปทรงซีดานกล่อง ส่วนประกอบการออกแบบ ที่โดดเด่นหลายอย่างของ BMW ที่ได้รับการปรับแต่ง

รวมทั้งกระจังหน้ารูปไต ไฟหน้าทรงกลมคู่ และรอยหยักแบบ Hofmeister ล้ออัลลอยสีเขียวขนาดใหญ่ ไฟท้สยแบบ LED ดิจิตอล กระจกรอบคันขนาดใหญ่ สร้างมุมมองได้กว้างขึ้น ไร้มือจับประตูด้านนอก

BMW Group เปิดตัวเทคโนโลยี E Ink หรือการเปลี่ยนโทน สีบนพื้นผิวตัวถัง โดยสามารถสร้างสี ได้มากถึง 32 สีผ่านฟิล์ม กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมทั้งตัว รถยนต์ด้านนอก

ปรัชญาการออกแบบ ที่เรียบง่ายนี้ ยังคงอยู่ในห้องโดยสาร เน้นการใช้งานมินิมอล แต่จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี BMW ได้นำระบบ Head-up Display ขั้นสูงของ BMW มาใช้ พร้อม BMW Mixed Reality Slider ที่สามารถฉายเนื้อหา ให้ครอบคลุมความกว้างทั้งหมด ของกระจกบังลม

สามารถแสดงข้อมูลบนพื้นผิวที่ใหญ่ เท่าที่จะเป็นได้ กระจกบังลมหน้าจะทำหน้าที่ เป็นอินเทอร์เฟซดิจิทัลเดียว ในการโต้ตอบกับทุกคนด้านในห้องโดยสาร

Adrian van Hooydonk หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BMW Group บอกว่า “BMW i Vision Dee ชี้ให้เห็นการออกแบบดิจิทัล ที่เข้ากับชีวิตประจำวัน และเป็นเพื่อนร่วมทาง ที่ไว้ใจได้ พร้อมมอบประสบการณ์ ที่คุ้ม ทำให้มนุษย์และก็เครื่องจักรใกล้ชิดกันมากขึ้น

อีกไม่นานเกินรอก็จะได้รับชมซีรีส์ส่งท้ายปีอย่าง The Glory กันแล้ว เพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงจะมีผลให้ผู้ชมตื่นเต้นไปกับไลน์อัปนักแสดงคุณภาพที่ขนทัพมาอย่างเนืองแน่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่พล็อตเรื่องที่กำลังจะถูกถ่ายทอดก็น่าสนใจแล้วก็น่าติดตามเป็นอย่างมากเช่นกัน ซึ่งล่าสุดทางด้านของ นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้มีโอกาสออกมาเปิดเผยถึงที่มารวมทั้งแรงบันดาลใจที่ทำให้สร้างสรรค์ซีรีส์เรื่องดังกล่าวนี้ขึ้นมา

ภายในงานแถลงข่าวซีรีส์ The Glory ที่ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา

เมื่อถูกถามถึงที่มาและก็แรงบันดาลใจ ที่ทำให้เขียนบทซีรีส์นี้ขึ้นมา ทางด้านของ นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้เล่าถึงเหตุผลนี้ อย่างน่าสนใจว่า “ฉันเป็นแม่ซึ่งมีลูกสาว ที่กำลังอยู่ในวัยเรียน และจะขึ้นมัธยมปลายปีที่ 2 ในปีหน้าค่ะ การใช้ความรุนแรงในโรงเรียน จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับฉัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยเช่นกันค่ะ เพราะในขณะที่เรากำลังคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่ ฉันก็เกิดกังวลขึ้นมาว่าลูกสาวฉันจะถูกวิจารณ์ที่โรงเรียนเพราะฉันหรือเปล่า แต่ลูกสาวตอบกลับมาว่า ไม่หรอก “แม่ไม่ได้ดังขนาดนั้นนะ” นั่นเป็นเรื่องแรกที่ทำให้ฉันช็อก แล้วลูกก็ถามฉันต่อว่า “แม่จะรู้สึกแย่กับอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการที่หนูเป็นคนกลั่นแกล้งรังแกคนอื่น หรือการที่หนูโดนรังแกเสียเอง”

ซึ่ง นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้เผยอีกต่อว่าเพราะ

คำถามข้างต้นนี้เองที่ทำให้ เธอเริ่มเขียนบท ซีรีส์ TheGlory นี้ขึ้นมา โดยคุณได้เล่าต่อว่าต่อขาน “คำถามนั่นเป็นอีกเรื่องที่ ทำให้ฉันตกใจมาก ๆ ค่ะ และก็ในขณะเดียวกันนั้น ความนึกคิดมากมาย ก็พรั่งพรูเข้ามาในหัว จนกระทั่งฉันตัดสินใจ เปิดแล็ปท็อป แล้วเริ่มเขียนบท เรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ ฉันครุ่นคิดตรึกตรองอยู่นานว่า จะตั้งชื่อเรื่องว่า อะไรดี ก็เลยได้ไป อ่านบทสัมภาษณ์ของเหยื่อ ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่เป็นเหยื่อความรุนแรง ในโรงเรียน รวมทั้งมาทราบทีหลังว่าเหยื่อ ส่วนมากไม่ เคยต้องการ คำขอโทษ เป็นเงินทอง หรือ สิ่งของอะไรก็ตามแม้แต่ต้องการ คำขอโทษ จาก ใจจริง มากกว่า

ฉันก็เลยสงสัยว่า คำขอโทษที่จริงใจ เหล่านั้นจะมีผลให้ ได้อะไรดีขึ้นมา แต่สุดท้าย ก็ใส่ใจได้ว่า เขาไม่ได้ ต้องการได้คำพูดขอโทษ แต่มัน เสมือนเป็น การทวงคืน สิ่งที่ พวกเขาได้สูญเสีย ไป อย่าง ดังเช่น เกียรติและก็ศักดิ์ศรี

ในขณะ ที่ โดนทารุณมากกว่า คำพูดขอโทษที่ออกมา จากใจ จะนำ พวกเขากลับ ไปยัง ตอนเวลา ก่อนที่ พวกเขา จะโดนรังแก เพราะเหตุนั้น ฉันก็เลยตัดสินใจ ตั้งชื่อ เรื่องว่า TheGlory ด้วย ความหวัง ที่ต้องการจะ ให้ตัวละคร อย่าง ดงอึน ฮยอนนัม รวมทั้งยอจอง ได้กลับไปสดใส แล้วก็มีเกียรติเหมือนตอนก่อนที่ พวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อ ของความร้ายแรง ค่ะ

เป็นที่รู้กันดีว่า แต่ละบทบาท ที่นักแสดง กำลังจะได้รับในซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างท้าทายความสามารถ แล้วก็ยังมีเนื้อหามากมายที่ต้องให้ความเอาใจใส่

ซึ่งเมื่อถูกถามถึงเสน่ห์ของแต่ละตัวละคร ทางด้านของ ซงฮเยคโย ตัวละครที่บทบาทสำคัญในซีรีส์เรื่องนี้

ก็ได้เผยว่า “ดงอึน เป็นตัวละครที่ มีอดีตอันแสนจะเจ็บปวดเพราะ ความรุนแรงในโรงเรียน ตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ
ทั้งยังคุณครูและตำรวจก็ไม่หากแม้แต่จะยื่นมือมาปกป้องเธอ เธอจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าทำไมต้องเป็นเธอ ที่ต้องตาย เนื่องจากพวกคนที่รังควานเธอต่างหากที่ต้องได้รับบทลงโทษ

นั่นก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล้างแค้นค่ะ นับเป็นเรื่องยากที่จะสื่ออารมณ์ของดงอึนซึ่งต้องทนทุกข์จากอดีตอันแสนทารุณไร้มนุษยธรรม และก็ต้องเจอหน้าต่อสู้กับผู้ที่กระทำผิด แต่แทนที่จะแสดงภาพลักษณ์ที่อ่อนแอ ฉันต้องการที่จะให้ผู้ชมมองเห็นด้านที่เข้มแข็งแทนค่ะ อยากที่จะให้มีความคิดเห็นว่าฉันเป็นดงอึนที่แข็งแกร่งมากกว่าดงอึนในวัยเด็ก ฉันจึงจุดโฟกัสจุดนั้นเป็นพิเศษค่ะ”

ซึ่งทางด้านของ อีโดฮยอน ก็ได้เล่าถึงตัวละครที่เจ้าตัวได้รับเช่นเดียวกันว่า

“ยอจอง เป็นตัวละครที่ดูข้างนอกนั้นสดใสแต่ภายในมีอะไรหลบซ่อนอยู่ ต้องการให้ไปติดตามดูกันเองในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ครับ”

โดย อีโดฮยอน ก็ได้เล่าถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาให้ได้ดีมากที่สุดว่า
“ตอนที่อยู่ในกองถ่ายผมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้กำกับอยู่เป็นประจำครับ
ผมตระหนักว่าการสื่ออารมณ์ของผมนั้นมีผลต่อการเล่าเรื่องในฉากต่อ ๆ ไปด้วย ผมต้องขอขอบคุณผู้กำกับที่มอบโอกาสให้ผมได้ลองถ่ายทอดอารมณ์ในหลากหลายรูปแบบ ผมก็เลยพยายายามเตรียมความพร้อมและก็ฝึกหลายหน เพราะเหตุว่าจะได้หาแนวทางที่เหมาะสมในการแสดงมากที่สุดครับ”

สุดท้ายนี้ ทางด้านของ ซงฮเยคโย ได้เผยความรู้สึกที่เธอได้มาเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ร่วมไปกับทีมงานและนักแสดงทุกท่านว่า

“ฉันเคยมีโอกาสร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุกในผลงานก่อนหน้านี้ค่ะ ต้องขอบคุณนักเขียนบทที่เชื่อใจแล้วก็มอบบทตัวละครใน The Glory อีกรอบค่ะ ฉันมีความสุขมาก ที่ได้เจอกับตัวละครดงอึน ผลงานเรื่องนี้ เป็นผลงานที่ทำให้มีความรู้สึกว่า การที่ฉันได้ทำงาน กับคนที่รักช่าง เป็นเรื่องที่มีความสุขเหลือเกินค่ะ อีกอย่างฉันเป็นแฟนคลับของผู้กำกับอันกิลโฮรวมทั้งอยากร่วมงานกับเขามานานแล้ว แนวของซีรีส์เรื่องนี้แล้วก็บทของตัวละครดงอึนเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับฉัน แต่เป็นเพราะว่าคำแนะนำของผู้กำกับ ฉันเลยหาหนทางในการแสดงได้ไวขึ้น ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”

The Glory เป็นซีรีส์แนวดราม่า

นำทีมถ่ายทอดเรื่องราวโดย ซงฮเยคโย อีโดฮยอน อิมจียอน ยอมฮเยรัน พัคซองฮุน และก็ จองซองอิล บอกเรื่องราวเกี่ยวกับ มุนดงอึน (รับบทโดย ซงฮเยคโย) ผู้เรียนสาวมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เคยเป็นหนึ่งในเหยื่อการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน แล้วก็มักถูกทำร้ายจิตใจอย่างเจ็บอยู่บ่อย

จนถึงเธอต้องลาออกจากโรงเรียนแห่งนั้น แล้วก็เมื่อระยะเวลาผ่านไป เธอก็ได้ตัดสินใจกลับมาเอาคืนอีกครั้ง ด้วยการสมัครไปเป็นอาจารย์ประจำชั้นของลูก ๆ ที่เคยรังควานเธอไว้ภายในวัยเด็ก

บรรยากาศ บนอินสตาแกรม @notevises โน้ต วิเศษ อบอวลไปด้วยความรัก และก็ความหวานละมุน แบบสุด ๆ โดยเฉพาะอย่างเมื่อใกล้ เข้าสู่พิธีมงคลสมรส ก็ยิ่งดูเหมือนจะ มีภาพโมเมนต์โรแมนติก ถูกปล่อยออกมา ให้ได้ฟินกันอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ คลิปวิดีโอพรีเวดดิ้ง ที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตน และไลฟ์สไตล์ ของคู่แต่งงาน แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด แล้วก็ โน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในด้านของโทนภาพ โลเคชั่น รวมถึงวิธีการ แสดงความรักความห่วงใย ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และก็เรียบง่าย แต่ว่าก็มีความ เป็นคู่รักสายลุย ไปพร้อมกัน

ยิ่งไปกว่านั้นแล้วทางฝั่ง ของไฮโซหนุ่ม ยังได้แนบแคปชั่นภาษาอังกฤษ ซึ่งมีเนื้อหาพูดถึง อีกสเต็ปในชีวิต ของเจ้าตัวแล้วก็นางเอกสาว ที่จะครองคู่ร่วมกัน ด้วยว่า “Our journey begins soon” โดยมีแฟน ๆ รวมทั้งเพื่อนพ้องคนดัง อีกทั้งในแวดวงธุรกิจ และวงการบันเทิง เข้ามาร่วมกดไลก์ รวมทั้งแสดงความยินดีกัน อย่างล้นหลามเลย

โน้ต วิเศษ พา แพทริเซีย ลองชุดเจ้าสาว ว่าที่เจ้าบ่าวตื่นเต้น ในความสวย

ถึงเวลาแต่งงานในช่วงธ.ค.ในปีนี้แล้ว ทำเอาคู่รัก สุดหวานอย่าง โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ กับนางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด ตื่นเต้นกันสุด ๆ ล่าสุดนั้น โน้ต ก็ได้ควงว่าที่เจ้าสาว แพทริเซีย ไปลองชุดใส่แต่งงาน โดยว่าที่เจ้าบ่าวได้เผย คลิปโมเมนต์น่ารัก ๆ ลง TikTok ส่วนตัว

โดยเขียนแคปชั่นว่า “ว่าที่เจ้าสาวของผม” โดยในคลิปดังกล่าว โน้ต ได้เขียนเล่าเรื่องระหว่างพา แพทริเซีย ไปลองชุดแต่งงาน พูดว่า ตื่นเต้นมาก ชุดสวยเต็มไปหมด ชอบทุกชุดเลย จนกระทั่งเลือกไม่ถูก

“วันนี้พามาดูน้อง ลองชุดแต่งงานกันนะครับ ผมนี้ตื่นเต้นมากเลย และขอแนะนำ แพลนเนอร์ของเราเป็นคุณแป้ง ลองกันหลายชุดเลย เฮฮากันมากครับ เลือกแนวกันไม่ถูกเลย ผมถูกใจเกือบทุกชุดเลยครับ จะเป็นชุดไหน ลองติดตามกันวันจริง ได้เลยนะครับ แอบให้ดูกันแค่นี้ก่อน ขอตัวก่อน”

ซึ่งแต่ละชุดที่ โน้ต เผยให้เห็นนั้น สวยมากจริง ๆ แถมเจ้าสาวเอง ขนาดยังไม่แต่งหน้าทาปากแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะใส่ตัวไหน ชุดไหนก็สวยไปหมด ทั้งแฟนคลับ ที่ติดตามต่าง ก็เห็นได้ถึงความรัก ที่ทั้งสองมีให้กัน ทำเอาแต่ละคน ถึงกับบอกว่า อยากที่จะให้ถึงงานแต่งวันนั้นเร็ว ๆ

“แพทริเซีย-โน๊ต” ฉลองปาร์ตี้สละโสด ปลาบปลื้มแล้วก็ซึ้งมาก “แพทริเซีย กู๊ด” นางเอกสาวช่อง 3 ควงว่าที่เจ้าบ่าว “โน๊ตวิเศษ” ฉลองปาร์ตี้สละโสด พร้อมหน้าครอบครัว และก็คนในวงการบันเทิง ว่าที่เจ้าสาวซึ้ง ร้องไห้ตาแดงก่ำ ด้วยความซาบซึ้ง ดีใจที่มีวันนี้ ด้านโน้ต ยิ้มแป้นทั้งงาน คลั่งรักสุด ๆ ไปเลย

ต้องบอกว่าปลาบปลื้ม รวมทั้งน่ารักทีเดียว สำหรับงานงานเลี้ยงสละโสด ของโน้ตกับแพทริเซีย ที่คนในวงการบันเทิง ได้ไปร่วมงานกันแน่น ทั้งยังครอบครัวแล้วก็ผู้จัด รวมไปถึง ตู่ ปิยวดี มาพร้อมสามี มาวิน ทวีผล, เมย์ เฟื่องอารมย์ ,ไก่ วรายุฑ ร่วมด้วยคนในวงการบันเทิง ที่มาร่วมยินดีกับแพทกับโน้ต ซึ่ง บรรยากาศเป็นไป อย่างชื่นบาน รวมทั้งซาบซึ้ง

แพทริเซียถ่ายรูปออกมา น้ำตาคลอตลอด ซึ่งทั้งคู่มีแพลนวิวาห์ กันในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งต้องพูดว่าเป็นงานมงคล ส่งท้ายปีคนบันเทิงอีกคู่ ที่สีชมพูมาก ในงานปาร์ตี้สละโสด

โน๊ตวิเศษเผยฤกษ์แต่ง แพทริเซีย ท้ายปีนี้ พร้อมมีลูกทันที พร้อมย้อนเล่าโมเมนต์ขอแต่งงาน

สำหรับคู่รักสุดหวาน อย่างหนุ่มโน๊ต แล้วก็นางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำเซอร์ไพรส์ คุกเข่าขอแต่งงาน กันไปเมื่อตอนมิถานายนที่ผ่านมา ล่าสุดพบหนุ่มโน๊ต ก็ได้อัปเดตถึงฤกษ์แต่งงาน พร้อมย้อนเล่าโมเมนต์ ขอแต่งงานโดยเผยว่า

วันนี้น้องแพทมาให้กำลังใจด้วย

“ใช่ครับ ก็ขอบคุณน้องมากเลย ที่ยังอุตส่าห์แวะมาให้กำลังใจครับ เข้าก็มีแจ้งมาก่อนว่าจะมา ไม่อย่างนั้นผมจะเซอร์ไพรส์ ยังตื่นเต้นอยู่ คือเขาก็เคลียร์คิวมาครับ เพราะว่าเราแจ้งเขาล่วงหน้า ความรู้สึกตอนนี้ตื่นเต้นมากจริง ๆ พวกพี่ ๆ ก็คงจะเห็นได้ อย่าที่พูดว่า ถึงจะเห็นผมอยู่ในสื่อบ้าง แต่ว่าก็มิได้ทำงานตรงนี้ และน่าจะไม่ถนัด ที่จะออกมาพูดกับทุกคน”

น้องแพทพูดว่าเราเตรียมตัวมาเยอะมากวันนี้

“ก็ต้องเตรียมครับ คือตื่นเต้น แต่ว่าเรื่องการตอบตำถาม ก็มิได้กังวลมากครับ โดยมากจะคือเรื่องของการ ต้องมายืนต่อหน้า ทุกคนอย่างนี้ครับ วันนี้ก็ตอบได้ เท่าที่ตอบได้ครับ”

เมื่อกี้แพทพูดว่าจะไปลองชุด ใช่ชุดใส่แต่งงานไหม

“อันนี้ผมยังไม่มั่นใจว่า เป็นชุดอะไรครับ แต่น่าจะเป็นหนึ่งในงานแต่งครับ ขอน้องไว้แล้ว บอกได้ครับ ในขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว ก็เตรียมอยู่ มีฤกษ์แล้วครับ ภายในปีนี้ ก็จะเรียนเชิญทุกคน อย่างเป็นทางการอีกครั้งด้วยครับ อีกไม่กี่เดือนแล้ว คือจริง ๆ ฤกษ์เราได้ปีนี้เลย ไม่เช่นนั้นจะเป็น 2024 ก็เลยคิดว่า เอาเป็นปีนี้เลยแล้วกัน วันจะแจ้งอีกครั้ง แต่ว่าราว ๆ ธันวาคมครับ”

คอนเซ็ปท์ให้แพทเลือกได้เต็มกำลังเลยใช่ไหม

“ใช่ เรามีแพลนเนอร์ แต่ว่ามีอะไรก็อยากให้น้องเคาะเลย ส่วนใหญ่หากเขาเคาะได้ ผมก็โอเค ส่วนเรื่องธีมเดี๋ยว แจ้งอีกครับ ให้สิทธิ์น้องเต็มที่ ให้เขาตัดสินใจดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องเถียงกันครับ เรื่องความคิดไม่ตรงกัน ไม่ค่อยมีครับ จริง ๆ ก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะส่วนใหญ่ ความคิดหรืออะไรแบบนี้ มันค่อนข้างตรงกันหมด ในขณะนี้ก็ได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ อยู่ในขั้นตอนอยู่ ก็ตื่นเต้นครับ”

ย้อนกลับไปโมเมนต์ขอแต่งงาน

“คือเราตั้งมั่นว่าต้องการจะเป็นเซอร์ไพรส์ แล้วด้วยการที่ผมเรียนรู้ ว่าน้องเขาเป็นคนยังไง ก็คิดว่าต้องการจะ ทำให้มันเป็นธรรมชาติที่สุด ก็เลยต้องหาโมเมนต์ ที่มันเซอร์ไพรส์จริง ๆ จริง ๆ ต้องการจะเล่าว่า เป็นครั้งที่สองสำหรับในการขอ ไม่ใช่ว่าเป็นการขอครั้งที่สองนะครับ

คือว่าเกือบขอเขาแล้วรอบหนึ่ง เดี๋ยววันไหนจะแชร์ภาพให้ดู คือให้เพื่อน ๆ ดูทุกคนหัวเราะมาก คือมันเป็นโมเมนต์ที่ไม่ได้เฟล แต่เป็นผมจะขอแล้วมันคนตื่นเต้น เลยอะ โอเค ไม่ใช่ครั้งนี้ คือเป็นในทริปเดียวกัน

แต่จังหวะมันไม่ดี ขณะนี้ ผิดจากที่ตั้งใจไว้นิดเดียว อยากที่พูดว่าพออะไร ที่มันไม่ใช่เซอร์ไพรส์ หรือจังหวะมันมิได้ ก็เลยหยุดไว้ก่อน และก็มีโมเมนต์อีกครั้งครับ”

พร้อมใช้ชีวิตคู่

“ใช่ครับ อันนี้ก็อยากให้ถามเพิ่มวันจริงมากกว่า เดี๋ยววันนั้น ไม่มีอะไรพูด ก็อยากจะมานั่งกับน้องแล้วบอก ส่วนเรื่องสถานที่ ก็ได้แล้วครับ เดี๋ยวแจ้งอีกทีครับ”

อากาศในวันนี้ ทั่ว ไทย อากาศเย็น ยอดดอยหนาวจัด 3 องศา กรุงเทพมหานครต่ำสุด 19 องศา ในขณะที่ใต้ยังมีฝน

วันที่ 15 ธ.ค. 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงในข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ซึ่งทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย

สำหรับมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมบริเวณอ่าว ไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรจะงดออกจากฝั่งในช่วงนี้

นอกจากนี้ ช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคม 2565 บริเวณที่มีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมไทยตอนบน

ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง โดยในบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1–2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

พยากรณ์อากาศสำหรับไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า
ตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณกระบี่ จังหวัดตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ไทย เตรียมหนาวอีก! กรมอุตุฯ เผย มวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังแรง มาอีก 17-20 ธันวาคม

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเผย อุณหภูมิเริ่มลดลงแล้ว กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ต่ำสุด 18.9 มวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังแรง มาอีก 17-20 ธ.ค. 65 ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนคลื่นลมแรง

วันนี้ (14 ธันวาคม 65) เวลา 09.30 น. ดร. ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้เปิดเผย ณ ศูนย์ปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ ชั้น 11 อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า วันนี้อุณหภูมิของประเทศไทยโดยเฉพาะทางตอนบนของประเทศลดลงเนื่องมาจากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 1- 2 วันนี้ (14-15 ธ.ค. 65) อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง

เริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ตอนล่างนั้นมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนของคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุดของวันนี้ที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ณ สถานีตรวจอากาศสุวรรณภูมิ วัดได้ 18.9 องศาเซลเซียส ถือว่าอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็น ซึ่งประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจะได้สัมผัสอากาศเย็นสบายในช่วงเช้าแบบนี้ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ จากนั้นอุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ก็จะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ที่มีกำลังแรงเข้ามาอีกในช่วงก่อนถึงปีใหม่ (17-20 ธ.ค. 65) ทำให้ไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 °ซ (พื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 °ซ ยอดดอยและยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส) สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 °ซ คาดว่าอุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส

บริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากว่าลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้นั้นจะมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 ม. บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1-2 ม. ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 65

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเน้นย้ำเพิ่มว่า ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสาร และประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ เพราะนอกจากจะได้เตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงแล้ว ในภาคใต้ยังต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มด้วย โดยสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามที่สายด่วน หมายเลข 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอนแก่น หนาวมาก เสื้อกันหนาวมือ2-ผ้าพันคอขายดี เริ่มต้นตัวละ 39 บาท

ขอนแก่น หนาวมาก เสื้อกันหนาวมือ2 ผ้าพันคอขายดี เริ่มต้นขายที่ราคาตัวละ 39 บาท ไปจนถึงตัวละ 100 บาท

ที่ตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น มีผู้คนจำนวนมาก ต่างพากันเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสองกันเพิ่มขึ้น เพราะว่าในขณะนี้อากาศทั่วทั้ง ขอนแก่น ได้หนาวเย็น ซึ่งนับเป็นโอกาสดีของพ่อค้าแม่ค้า ที่ต่างนำเสื้อกันหนาวมือสองหลากหลายรูปแบบ มาตั้งโชว์ให้กับลูกค้าได้เลือกซื้อ

นางสาวจิราภร คล้ายเจียว อายุ 35 ปี เจ้าของร้านเสื้อกันหนาว กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ในช่วง 1-2 วันนี้ ช่วงนี้คนเริ่มออกมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาวกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนมากจะขายดีทั้งเสื้อเด็กและผู้ใหญ่ แต่คนส่วนใหญ่จะเลือกที่เป็นเสื้อแขนยาวผ้าบางจะขายดี เพราะสามารถใส่ได้ทุกฤดูกาล ทั้ง กันแดดและกันหนาว เริ่มต้นขายที่ราคาตัวละ 39 บาท จนไปถึงตัวละ 100 บาท

“ตลาดแห่งนี้ถือเป็นตลาดที่มีเสื้อผ้าหลากหลายให้เลือกซื้อ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดี และมีหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงจนสามารถซื้อฝากญาติที่ได้ เพียงแต่ต้องนำไปซักเพื่อทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนใส่เพื่อสุขอนามัยแต่เสื้อผ้าที่นำมาขายทางร้านได้นำไปซักทำความสะอาดอบฆ่าเชื้อเรียบร้อยหมดแล้วลูกค้าซื้อไปก็นำไปซักอีก 1 รอบก็สามารถนำมาใส่ได้เลย”

สำหรับสาวก Apple คงจะลุ้นกัน ใหญ่ว่าปี 2023 นั้นจะมี iPhone 15 ออกมา โดยคาดว่า อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในรุ่นสูงสุด ที่มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว สเปกเรือธงโดยคาดว่า อาจมีการเปลี่ยนชื่อ มาเป็น iPhone15 Ultra เพราะว่า จะเป็นรุ่นที่ ก้าวกระโดดจาก iPhone 14 Pro มากพอสมควร

ดีไซน์ใหม่ของ iPhone15 Ultra ที่พวกเราคาดว่าจะเกิดขึ้น สิ่งแรกที่มีการเอ่ยถึง คือการออกแบบ โดยคาดว่า iPhone15Ultra จะได้ดีไซน์ ตัวเครื่องที่มีลักษณะโค้งมน

แล้วก็ด้านหลังเป็นกระจก ที่มีลักษณะคล้ายกับ MacBook Pro รองรับ MagSafe โยดคาดว่า ขอบตัวเครื่อง จะทำจาก ไทเทเนียม แล้วก็กระจกด้านหลังแกร่งทนต่อการ ตกกระแทกได้ดียิ่งกว่าเดิม

แต่ว่ากล้องยังคง วางตำแหน่งที่เดิม อาจเปลี่ยนแปลงโดยการ เพิ่มขอบให้โค้งมนเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

iPhone 15 ข้อนี้เด็ดเพราะคาดว่ามันจะมากับ USB-C

แล้วก็เป็น Thunderbolt ในรุ่นต่อไปคาดว่า iPhone15 อาจได้เป็นรุ่นแรก ที่ใช้ช่องเสียบ USB-C จากที่กฎหมายจากสหภาพยุโรป ได้ระบุว่าผู้ผลิต Smart Phone จะต้องใช้ช่องเสียบเป็น USB-C

ทั้งหมดก่อนวันที่ 28 เดือนธันวาคม 2024 ที่จะถึงนี้ แต่บางกระแส พูดว่าอาจไม่มีช่องเสียบใด ๆ เน้นระบบชาร์จแบตไร้สาย ก็เป็นได้

อย่างไรก็แล้วแต่คงต้องรอดู กันต่อไป เพราะเหตุว่ายังไม่มีอะไร รับรองได้ว่า iPhone 15 จะใช้ช่องเสียบแบบไหน ทั้งนี้ Ming-Chi Kuo เผยว่า iPhone15 Pro จะใช้ได้ใช้ USB-C แล้วก็รองรับ Thunderbolt แน่ ๆ

กล้องหน้าให้มาแบบคู่

ปกติกล้องหน้าของ iPhone จะเป็นกล้องเดียว และก็อีกเลนส์จะเป็นระบบ Depth Sensor ไว้ทำงานร่วมกับระบบ Face ID แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า iPhone15Ultra จะได้กล้องหน้าคู่ โดยพื้นที่ของ Dynamic Island จะมีความกว้างมากยิ่งกว่าเดิม โดยคาดว่า iPhone15 ทุกรุ่นจะได้หน้าจอแบบ Dynamic Island ทุกรุ่นแม้ว่า จะมีข้อมูลเผยว่าระบบ Face ID จะซ่อนในหน้าจอก็ตาม

เลนส์ซูมกำลังมากขึ้น ดียิ่งขึ้นเด็ดขึ้น

ข่าวเรื่องการใส่กล้องซูมแบบ Periscope นั้นก็มีลือมาหลายครั้งอยู่เช่นกัน ล่าสุด มีข่าวออกมาว่า iPhone15 Ultra บางครั้งก็อาจจะเป็นรุ่นเดียว ที่ได้กล้องซูมแบบ Periscope

ทั้งนี้ถ้าใครอยากได้เลนส์ Periscope ใส่รุ่นปกติ อาจจะต้องรอใน iPhone 16 Pro ก็เป็นได้

เลนส์ของกล้อง iPhone15 Pro บางครั้งก็อาจจะพัฒนาให้เป็นชั้น ๆ แล้วก็สามารถเลือก การซูมได้เหมาะสมมากขึ้น แต่อย่าลืม ว่าเทคโนโลยี Periscope ค่ายอื่น ๆ เขาใช้มาก่อนหน้านี้ ที่รองรับการซูมได้สูงสุด 10 เท่า แล้วก็ซูมไกลสุดที่ 100เท่า มาแล้ว

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ (จากข่าวลือทั้งหมด) ข้อมูลของ Ming-Chi Kuo ได้เปิดเผยว่า iPhone15 ก็อาจจะเป็นการเลือก ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ แต่สุดท้ายประเด็นนี้ อาจจะถูกปัดตกไป เพราะเหตุว่า Apple แน่ใจว่าระบบ Face ID นั้นดีอยู่แล้วก็เป็นไปได้ และก็รวมถึงปุ่มด้านข้างแบบ Solid-State (ฝั่งไปกับขอบเครื่อง) ก็อาจจะ เป็นจริงในอนาคต และก็รวมถึงกล้องที่พัฒนา ให้ถ่ายที่แสงน้อยได้ดีเพิ่มมากขึ้น

ราคาแล้วก็วันเปิดตัว แน่ ๆ ว่าเดือนเดิม มีการคาดเดาว่า iPhone15Ultra จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายในกันยายน 2023 แล้วก็คาดว่า การผลิตน่าจะมากขึ้นแล้ว ส่วนราคาที่คาดว่า iPhone15 Ultra อาจจะเคาะที่ 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เพราะเหตุว่าการเปลี่ยนแปลง ที่เยอะมาก แล้วก็อาจจะมี รุ่นความจำ 2TB เป็นตัวท๊อปสุด ให้เลือกด้วยเหมือนกัน

ส่อง 8 คุณสมบัติใหม่ ที่คาดว่าจะมีใน iPhone 15

เหลือเวลาอีกเกือบจะ หนึ่งปีกว่า ที่เราจะได้ iPhone15 แบบใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (คาดว่าจะเปิดตัวในกันยายนปี 2023) ในตอนนี้เรากลับได้ยินข่าวลือ ทยอยหลุดออกมา ให้เห็นกันแล้ว ดูอย่างกับว่า ‌iPhone15‌ รุ่นใหม่จะได้รับ การอัปเดตที่โดดเด่นมากยิ่งกว่า ที่เราได้เห็นใน iPhone 14 รวมถึงคุณสมบัติที่ผู้ใช้ iPhone หลายคนต้องการ มานานหลายปี

วันนี้ได้นำข้อมูล ของคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่คาดว่าจะ ได้เห็นใน iPhone 14 Series ที่เรียบเรียงโดย MacRumors มาอัปเดตให้ได้อ่านกัน จะมีอะไรบ้าง ที่น่าสนใจแล้วก็น่าตื่นเต้นก่อนที่จะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่นี้

ครั้งแรกกับการมาของพอร์ต USB-C

ในปี 2023 อาจเป็นการสิ้นสุด ของการใส่ช่องเสียบ USB-C แล้วก็จะมาแทน Lightning Port โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทั้ง Mac, iPad แล้วก็ iPhone จะใช้ช่องแบบเดียวกัน

Apple มิได้เปลี่ยนมาใช้ USB-C เพื่อทำให้ชีวิตของคุณสะดวกขึ้น อย่างแน่นอน แต่กำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเหตุว่าสหภาพยุโรปกำลังเรียกร้อง iPhone ที่จัดจำหน่ายในยุโรป ควรมีพอร์ต USB-C ภายในปี 2024 โดยเหตุนั้น Apple จึงต้องเปลี่ยนแปลง การออกแบบทั่วทั้งโลกหรือสร้าง iPhone พิเศษสำหรับยุโรปแค่นั้น?

อย่างไรก็แล้วแต่ในข่าวที่ ออกมาก่อนหน้านี้ Apple รับรองว่าจะปฏิบัติตาม ข้อบังคับท้องถิ่น และก็ข่าวลือระบุว่า Apple จะทำการเปลี่ยนแปลงในปี 2023

มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียงแล้วก็เปิดปิดแบบสัมผัส (Solid State)

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ดังกล่าว เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า Apple อาจเพิ่มปุ่มปรับระดับเสียงแล้วก็ปุ่มเปิดปิดแบบสัมผัส (Solid State) ให้กับ ‌iPhone15‌ แทนที่จะเป็นปุ่มจริง ซึ่งจะคล้ายกับแทร็คแพดบน Mac แล้วก็ปุ่มโฮมของ ‌iPhone‌ 7 การตอบสนอง แบบสัมผัสจะ เลียนแบบความรู้สึก ของการกดปุ่มบนปุ่มทึบ แทนที่การกดปุ่มแบบกลไก

การใช้ปุ่มสถานะ ของแข็งอาจป้องกันน้ำเข้าแล้วก็อาจจะทำให้ Apple สามารถกันน้ำได้ดีขึ้น การใช้การตอบสนอง แบบสัมผัส สำหรับปุ่มจะทำให้ Apple ต้องเพิ่ม Taptic Engine รุ่นใหม่

ปรับมาใช้ Dynamic Island สำหรับทุกรุ่น

Apple เปิดตัว Dynamic Island สำหรับ iPhone 14 Pro แล้วก็ Pro Max ในช่วงเวลาที่รุ่น ‌iPhone 14‌ ที่ราคาถูกกว่า ยังคงใช้รอยบาก ด้วย ‌iPhone15‌ รายการทั้งหมด

คาดว่าจะได้รับ ‌Dynamic Island‌ ทุกรุ่น โดยเหตุนั้นถ้าเกิดคุณต้องการเข้าถึง ‌Dynamic Island‌ แต่ไม่ต้องการซื้อรุ่นท็อป ให้สิ้นเปลือง แนะนำให้รอ ‌iPhone15‌ ไปเลยดีกว่า

ขนาดเท่าเดิม ไม่เคยได้ยินข่าวลือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ ที่เด่นสำหรับ ‌iPhone15‌ ในขณะนี้ ดูอย่างกับว่าเราจะได้ขนาดเท่ากัน ‌iPhone15‌

แล้วก็ 15 Pro จะมีขนาด 6.1 นิ้ว แล้วก็ ‌iPhone15‌Plus แล้วก็ Pro Max จะมีขนาด 6.7 นิ้ว ดังนั้นขนาดของเครื่อง จึงไม่ต่างอะไรจากเดิม

เทคโนโลยีเลนส์ซูมแบบ Optical (Periscope)

ได้ยินเกี่ยวกับงานของ Apple เกี่ยวกับเทคโนโลยีเลนส์ Periscope มาหลายปีแล้ว และก็ปี 2023 อาจเป็นปีที่มีการเปิดตัว เลนส์ Periscope ที่เน้นการซูมไกล แล้วก็คมชัด ซึ่งผู้สร้างสมาร์ทโฟน Android บางรายใช้อยู่แล้ว มีความสามารถในการซูมแบบออปติคอล ที่เกินช่วงซูมที่มีใน เลนส์เทเลโฟโต้ แบบมาตรฐาน

ด้วยเลนส์ปริทรรศน์ Apple สามารถซูมออปติคอลได้ 5x หรือ 10x มากขึ้นจาก 3x ในรุ่น ‌iPhone 14 Pro‌ ปัจจุบันนี้

มากับชื่อที่อาจเปลี่ยนไปในบางรุ่น ซึ่งก็คือ iPhone15Ultra
Mark Gurman แห่ง Bloomberg บอกว่า Apple อาจแทนที่รุ่น “Pro Max” ของ ‌iPhone15‌ ด้วยรุ่น “Ultra” ระดับไฮเอนด์ใหม่ อย่าง iPhone15 Ultra นั่นจะสอดคล้องกับ Apple Watch Ultra

และก็อาจให้ข้ออ้างแก่ Apple ในการจำกัดคุณสมบัติ บางสิ่งสำหรับ ‌iPhone‌ ระดับบนสุด ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีเลนส์ปริทรรศน์

อีกด้านหนึ่ง อย่างนักวิเคราะห์ ‌Ming-Chi Kuo‌ ได้บอกว่าเลนส์ Periscope ของ iPhone อาจมีความสามารถเยอะ ขึ้นกว่าเดิม ทำให้สมกับการเป็นชื่อ Ultra เหมือนกัน

ชิปใหม่ขนาด 4 นาโนเมตร

ในรุ่น ‌iPhone15‌ Pro อาจเป็นมือถือรุ่นแรก ที่มีชิปที่ผลิตโดย สถาปัตยกรรมขนาด 3 นาโนเมตรจาก TSMC ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของ Apple เทคโนโลยีชิป 3nm คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพ การประมวลผลได้ 10 ถึง 15% ในช่วงเวลาที่ลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 30%

ถ้าเกิด Apple เลือกใช้ชิป A17 ที่มีขนาด 3 นาโนเมตรจริง ผลที่เกิดนั้น จะมีประสิทธิภาพดีมากกว่าชิป A16 อย่างชัดเจน เฉพาะรุ่น Pro แค่นั้นที่มี A16 ซึ่งสร้างขึ้นจากกระบวนการ 4 นาโนเมตร

อย่างไรก็แล้วแต่ก็คาดเดาว่าชิป A17 ถูกจำกัดที่ ‌iPhone15‌ Pro ในทำนองเดียวกัน รุ่นมาตรฐาน ‌iPhone15‌ อาจได้รับการ อัปเกรดเป็น A16 รุ่นก่อนหน้า

RAM มากขึ้นเยอะสะใจ

‌iPhone15‌ Pro บางทีอาจได้รับ RAM ขนาด 8GB เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมมากขึ้นจาก 6GB เพื่อรองรับความสามารถใหม่ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีเลนส์กล้องซูมไกล แบบ Periscope เป็นต้น

อย่างไรก็แล้วแต่สำหรับ iPhone15Series ยังคงต้องรอดูกันต่อไป ว่าทั้งนี้ จะมีข้อมูลอะไร อัปเดตเพิ่ม มากน้อยแค่ไหน เพราะเหตุว่ากว่าจะเปิดตัว ก็ต้องคอยไปจนปี 2023 นี้

ตอนนี้เหล่าชายหนุ่มๆดินแดนมังกร มาขโมยหัวใจสาวๆ ให้ตกหลุมรักกัน ไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้น ก็คือ หลัวเจิ้ง (Luo Zheng) นักแสดงหนุ่มหล่อ ที่มีผลงานการแสดงให้แฟนๆได้ติดตามกัน แบบไม่ให้พักหัวใจ หันสายตาไปหาใคร และ เขากำลังจะมีผลงานซีรีส์เรื่องใหม่ มาให้แฟนๆได้ติดตามอีกแล้ว

สัมภาษณ์คุยกับนักแสดงหนุ่มหล่อ หลัวเจิ้ง

ดาราหนุ่มฮอต ที่มาขโมยหัวใจสาวๆ ที่ครั้งนี้มาในมาดใหม่เป็นชายหนุ่มหล่อสายฮา ในผลงานซีรีส์เรื่อง รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง (Perfect Mismatch) ซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างท่านประธานจอมหยิ่ง และ พนักงานสาวสุดแสนธรรมดา เกิดเป็นความรักระหว่างประธาน และ ลูกน้อง

แบบทั้งจิ้น ฟิน ฮา ที่คอยให้คุณพิสูจน์ทาง iQIYI พวกเราจะพาทุกคนไปคุยกับหนุ่ม หลัวเจิ้ง ในบรรยากาสสุดเป็นกันเอง จะเป็นยังไงบ้างนั้น มาติดตามจากบทสัมภาษณ์นี้กันเลย!

Perfect Mismatch (รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร มีความพิเศษยังไง เอ่ยถึงเรื่องราว และ ตัวละครของคุณในเรื่องนี้หน่อย

หลัวเจิ้งซีรีส์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวความรัก ที่คาแรกเตอร์พระเอก ภายนอกจะดูเย่อหยิ่งๆครับ แต่จริงๆแล้ว ข้างในเป็นคนใจดีครับ ทำงานเก่ง เก่งในเรื่องของงานมาก แต่ในเรื่องความรัก กลับไปไม่เป็นซะเลยครับ คาแรกเตอร์ จะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊ก มีความคอเมดี้ เป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่น่าติดตามครับ

ผลงานที่ผ่านมาของคุณ ส่วนมากจะเล่นบทเป็นชายหนุ่มมาดนิ่ง มาดขรึม แต่ในเรื่องนี้ คุณฉีกบทบาท ที่ผ่านมา เป็นแนวคอเมดี้สายฮาเลย บทบาทนี้ ท้าทายคุณมากน้อยแค่ไหน

หลัวเจิ้งสำหรับเรื่องนี้ ท้าทายค่อนข้างจะมากเลยครับ เพราะ ต่างจากซีรีส์เรื่องก่อนๆ ที่เคยเล่นมา คาแรกเตอร์ค่อนข้างจะฉีกแนวไปจากเดิม ผมเลยจำเป็นต้องไปทำความเข้าใจ เพื่อสร้างตัวละครนี้ออกมาครับ ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเลย อยากที่จะให้ชมกันครับ

การเล่นบทเป็นประธานโจวจื่อเฝ่ย มีความใกล้เคียงกับตัวจริงของคุณมากน้อยแค่ไหน อะไรที่เหมือน และ ต่างจากตัวจริงของคุณ

หลัวเจิ้งคาแรกเตอร์ตัวละครนี้ ไม่ค่อยมีความใกล้เคียงตัวผมเลยครับ โจวจื่อเฝ่ย เขาจะมีความตลกครับ ตรงจุดนี้ ผมก็มีความใกล้เคียงอยู่นิดหนึ่งครับ โจวจื่อเฝ่ย เวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน เขาจะตลก ผมก็เป็นเหมือนกันครับ สิ่งนี้ที่น่าจะเป็นจุดที่เหมือนกันกับตัวละครครับ (ยิ้ม)

แน่นอนว่า แฟนๆหลงรักเสน่ห์ของคุณ อยากที่จะให้คุณลองบอกเสน่ห์ของตนเองสัก 3 ข้อหน่อย

หลัวเจิ้งจริงใจ, กล้าหาญ และ ใจดี ครับ

คุณเล่นเป็นประธานบริษัทมาหลายเรื่อง ในชีวิตจริงต้องการเป็นประธานบริษัทอะไร

หลัวเจิ้งสามารถเป็นไปได้ทุกประธานบริษัทเลยครับ (หัวเราะ) อยู่ที่บริษัทไหนอยากที่จะให้ผมเป็นประธานบริษัท ผมเป็นได้หมดเลยครับ

อยากที่จะให้คุณให้คะแนนความยาก ในแต่ละตัวละครที่เคยได้รับ (3 ตัวละคร)

หลัวเจิ้งความยาก กู้เหยียนลั่ว (ยิ้มให้รักจากหัวใจ) 8 คะแนนครับ, กู้ซีเฉิง (ถึงคิวรักยัยบล็อกเกอร์) ได้ 8 คะแนนเหมือนกันในความยาก แต่บทของ โจวจื่อเฝ่ย (รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง) ให้ความยาก อยู่ที่ 9 คะแนนครับ

คุณได้ฉายาว่าเป็น “เจ้าพ่อซีรีส์นางเอกฝาแฝด” เพราะ คุณเคยรับบทบาท ที่มีนางเอกเป็นฝาแฝดถึง 3 เรื่อง รู้สึกยังไงบ้าง กับฉายานี้

หลัวเจิ้ง:ผมคิดว่า น่าจะเป็นเหมือนพรหมลิขิตครับ ที่ทำให้ผมได้มาเล่นบท ที่นางเอกเป็นฝาแฝดทั้งนั้นเลย

คุณหลัวเจิ้งอยากลองเล่นบทบาทฝาแฝดบ้างหรือเปล่า และ ต้องการออกแบบคาแรกเตอร์ฝาแฝดเป็นยังไงบ้าง

หลัวเจิ้ง: จริงๆผมก็คิดนะว่า อยากเล่นบทฝาแฝดดูบ้าง ถ้าเกิดผมจะเล่นหรอ คงจะอยากที่จะให้ฝาแฝด มีความต่างกัน อยากที่จะให้พี่ชาย มีความคูลๆหน่อย ส่วนน้องชายอยากที่จะให้ ดูน่ารักครับ จะได้แยกสองคาแรกเตอร์ ออกได้ชัดเจน

อย่างที่ได้เห็นกันผลงานหลายเรื่องที่ผ่านมา

ส่วนมากคุณเล่นบทเป็นท่านประธาน ในอนาคต คุณมีบทบาทที่ต้องการแสดงหรือไม่ ต้องการรับบทบาทแบบไหน

หลัวเจิ้งต้องการลองเล่นบทเป็นตัวร้ายครับ แบบร้ายสุดๆไปเลยนะครับ เพราะ เป็นบทบาทที่ผมไม่เคยได้ลองเล่นเลย อยากลองท้าทายตัวเองมากขึ้นครับ

คุณหลัวเจิ้งมีความคิดว่า การเดินทางบนเส้นทางการเป็นนักแสดงของคุณ ใกล้แผนการที่ตั้งไว้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว กำหนดจุดมุ่งหมายในวงการอย่างไรบ้าง

หลัวเจิ้งถ้าเกิดถามว่า ใกล้แผนการที่ตั้งไว้มากแค่ไหนแล้ว คงจะ 50% แล้วครับ ก็ครึ่งทางแล้วครับ ผมชอบเส้นทางการเป็นนักแสดงในตอนนี้มากๆ ในอนาคต ผมจะตั้งใจทำงานในเส้นทางนี้ให้ดีที่สุดครับ

อยากเพิ่มคำถามสนุกๆว่า เคยดูละครไทยบ้างไหม เรื่องอะไร รู้จักนักแสดงไทย บ้างหรือเปล่า

หลัวเจิ้งจริงๆ ผมไม่ค่อยได้ดูซีรีส์ไทยเท่าไรครับ แต่ช่วงปี 2019 ผมเคยดูซีรีส์ไทยเรื่องนึง ที่ตัวพระเอกเป็นประธานบริษัท จะมีลุคเย่อหยิ่งๆนิดนึงเหมือนกัน ก็ได้ดู เพื่อที่จะทำความเข้าใจบทบาทตัวละครของเขา มาช่วยการแสดงของผม ชอบมากเลยครับ แต่ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร (รู้จักนักแสดงไทยไหมคะ) ลิซ่า ครับ (หัวเราะ)

อยากมาเจอแฟนๆชาวไทยหรือไม่ มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆชาวไทยบ้าง

หลัวเจิ้ง:อยากที่จะให้แฟนๆชาวไทยดูแลรักษาตัวดีๆ แล้วหลังจากนั้นก็ คอยวันที่พวกเราจะได้พบกันครับ

ถ้าเกิดใคร ที่โดนตกจนหัวใจสั่นอย่างจังแล้วล่ะก็ อย่าลืมไปติดตามซีรีส์ รักเกินต้าน ประธานจอมหยิ่ง (Perfect Mismatch) ผลงานเรื่องล่าสุดของหลัวเจิ้ง ได้ทาง iQIYI

NCT 127 แม้ว่าจะไม่ใช่คราวแรกที่พวกเราได้มองเห็นปรากฎการณ์บัตรคอนเสิร์ตของนักแสดง โดยเฉพาะนักแสดงต่างประเทศที่เป็นที่รู้จักมาก ๆ ขายบัตรคอนเสิร์ตในอิมแพ็ค อารีน่าหมดเกลี้ยงกว่า 35,000 ใบภายในเวลาไม่กี่นาที

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ รวมทั้ง NCT 127 คือหนึ่งในนั้น

ต้องเห็นด้วยว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นคนชอบฟังเพลง K-POP บางครั้งก็อาจจะไม่ได้คุ้นชื่อของ NCT127 มากสักเท่าไรนัก

หรืออย่างน้อยที่สุดบางครั้งก็อาจจะเคยได้ฟังมาบ้างจากการเป็นวงบอยกรุ๊ปจากค่ายดัง SM Entertainment ค่ายเดียวกับ TVXQ!, Super Junior, Girls’ Generation, SHINee, f(x) รวมทั้ง EXO แต่สิ่งที่นึกออกก็มีแค่ชื่อวงว่า NCT และไม่เข้าใจว่ามีการแบ่งยูนิตย่อยที่บางครั้งก็อาจจะฟังดูน่าปวดหัวไปบ้างในยามที่ได้ยินคราวแรก

แต่ ในตอนไม่กี่ปีที่ผ่านมา NCT127 สั่งสมประสบการณ์รวมทั้งผลงานมากมาย จนกระทั่งทำให้วงขยายกลุ่มแฟนเพลงได้มากขึ้น

แม้ว่าจะมีโควิด-19 เป็นอุปสรรค แต่พวกเขาก็ยังประสบความสำเร็จกับการผลงานต่าง ๆ ที่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ

รวมทั้งกลับมาทัวร์คอนเสิร์ตระดับเวิลด์ทัวร์อีกที พร้อมประกาศศักดาบัตรคอนเสิร์ตขายหมดเกลี้ยงใน 3 รอบภายในเวลาไม่กี่นาที

กับสถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แถมสิ่งที่จำเป็นบัตรยังมีอีกมากถึงขั้น แฮชแท็กของงานมีแต่คนตามหาบัตรกันจนถึงนาทีสุดท้าย รวมทั้งราคาบัตรขายต่อพุ่งมากถึงหลักหมื่น

นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ผู้คนจำนวนมากในประเทศไทยเริ่มรู้จัก NCT127 เยอะขึ้นแล้วจริง ๆ

คอนเสิร์ต NCT 127 2ND TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ จัดขึ้นถึง 3 รอบในวันที่ 3-5 ธันวาคม 2022 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

จัดโดย SM True สมาชิก NCT127 กลับมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยอีกทีจากทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในปี 2019 กับ NCT127 WORLD TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – The Origin’ คราวนี้

ก็เลยเป็นคอนเสิร์ตคราวแรกในรอบ 3 ปี 6 เดือน ตอนที่หายไปพวกเขาปล่อยอัลบั้มใหม่ออกมาถึง 3 อัลบั้ม ทั้ง NCT #127 Neo Zone, Sticker รวมทั้ง 2 Baddies ก็เลยทำให้คอนเสิร์ตนี้อัดแน่นไปด้วยเพลงกว่า 34 เพลง ในเวลา 3 ชั่วโมง

คอนเสิร์ตแบ่งออกเป็นช่วง ๆ ช่วงเปิดตัวเรียกอะดรีนาลีนให้กับแฟนคลับด้วยเพลงสร้างชื่อของวงอย่าง “Kick It” จากอัลบั้ม NCT #127 Neo Zone ต่อด้วย “Lemonade” เพลงจากอัลบั้ม Sticker รวมทั้ง “Cherry Bomb” จากมินิอัลบั้ม NCT #127 CHERRY BOMB เต้นรัว ๆ หนัก ๆ แบบ non-stop

ก่อนที่จะคั่นด้วยการพูดทักทายแฟนคลับเป็นภาษาไทยเพื่อเข้าสู่ช่วงต่อไปที่เป็นเซ็ตเพลงสนุก ๆ สบาย ๆ โยกตามง่าย ๆ อย่าง “Elevator (127F)”, “Dreamer” รวมทั้ง “Love Song” ที่สองเพลงหลังตัดมาครึ่งเพลงพอหอมปากหอมคอ

นอกจากเพลงในอัลบั้มตามธรรมดาแล้ว คอนเสิร์ตของ NCT127 ในคราวนี้มีการแสดงเดี่ยวของแต่ละคนด้วย  คนแรกเปิดด้วยพี่ใหญ่ของวง แทอิล (TAEIL) กับเพลง “Another World” เพลงในมินิอัลบั้มแรกของวงที่แทอิลชื่นชอบเป็นการส่วนตัว เขาเอามารีมิกซ์ใหม่ในสไตล์ของเขาเอง ก่อนที่จะเข้าสู่อีกเพลง “Love Sign” เพลงใหม่แนวอาร์แอนด์บีน่ามองที่แทอิลรับบทนักร้องรวมทั้งเป็นมือคีย์บอร์ดให้กับสมาชิกน้องเล็ก แฮชาน (HAECHAN)

ที่รับบทนักร้องรวมทั้งแดนเซอร์, มาร์ค (MARK) แร็ปเปอร์ของวง มากับเพลงแร็ปใหม่เดือด ๆ “Vibration”, แทยง (TAEYONG) หัวหน้าวงกับเพลงกลิ่นอายร็อคสตาร์ “Moonlight”, จองอู (JUNGWOO) ที่เลือกแสดงด้านน่ามองให้แฟนคลับได้ชมกัน

กับการแสดง เต้นเดี่ยวในเพลง “Lipstick” เพลงจาก LOVEHOLIC มินิอัลบั้มเพลงภาษาญี่ปุ่น, จอห์นนี่ (JOHNNY) กับการเต้น แสดงความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อพร้อม ถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็ค ในฉากที่จำลอง เป็นห้องอาบน้ำ ระหว่างเพลง “Focus”, แจฮยอน (JAEHYUN) มากับเพลงอาร์แอนด์บีช้า ๆ อย่าง “Lost”, โดยอง (DOYOUNG) หยิบเอาเพลง “Favorite” จากอัลบั้ม Favorite – The 3rd Album Repackage ที่เขาชื่นชอบมา rearrange ใหม่

เป็นแนวบัลลาดในชื่อเพลง “The Reason Why It’s Favorite” รวมทั้ง ยูตะ (YUTA) ทั้งร้องทั้งเต้นในเพลงป็อปจังหวะช้าเร่งเร็วพร้อมเสียงอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงปลายกับ “Butterfly” เพลงใหม่ที่ยูตะเลิกเสื้อให้เห็นรอยสักผีเสื้อที่หน้าท้องด้านซ้ายของเขาด้วย

เพลงเดี่ยวของทุกคนถูกแทรกคั่นกึ่งกลางระหว่างเพลงอื่น ๆ ที่ mood & tone ใกล้เคียงกัน รวมทั้งนอกจากเพลงเดี่ยวแล้ว
ก็ยังมีเพลงแยกยูนิตอย่างยูนิตแร็ป มาร์ค แทยง กับ “The Himalayas” รวมทั้ง “Run Back 2 U + BASSBOT”

เป็นการแสดงของยูนิตเต้น จอห์นนี่ แทยง ยูตะ แจฮยอน รวมทั้งเพลงของยูนิตโวคอล แทอิล โดยอง แจฮยอน จองอู รวมทั้ง แฮชาน ในเพลง “The Rainy Night”

กว่า 3 ชั่วโมงครบทุกรสทุกชาติตั้งแต่เต้นหนัก ๆ

ในเพลง “Highway to Heaven”, “Favorite (Vampire)”, “Regular”, “Love On The Floor”, “Sticker”, “Faster” รวมทั้ง “2 Baddies”

เพลงสนุก ๆ อย่าง “Paradise”, “TOUCH”, “Love Me Now” ไปจนถึงเพลงโชว์พลังเสียงเน้น ๆ อย่าง “White Night” รวมทั้ง “Back 2 U” สมาชิกทั้ง 9 คนเปลี่ยนกันเต้นเปลี่ยนกันร้องกันอย่างมาก แรงดีไม่มีตก พาร์ทเต้นไม่พลาด พาร์ทร้องก็ทำได้ดีจนกระทั่งขนลุก

จบท้ายกับจดหมายถึงแฟนคลับพร้อมเพลงน่ารัก ๆ อย่าง “Dreams Come True” รวมทั้งวิ่งไปหาแฟนคลับทั่วเวทีในเพลง “Promise You” เป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาแฟนคลับชาวไทยอีกทีแน่นอน

สมาชิกแต่ละคนดึงความสามารถรวมทั้งศักยภาพของตนเองออกมาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม

แม้ว่าจะจุดโฟกัสที่การแสดงเพอร์ฟอร์มานซ์สุด ๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะบันเทิงใจไปกับคอนเสิร์ตอยู่เสมอ ตอนที่อินกับการแสดงก็เข้าถึงอารมณ์ ตอนที่เอนเตอร์เทนแฟนคลับก็ร่าเริงแจ่มใสวิ่งไปทั่วเวทีเป็นคอนเสิร์ตเน้นPerformanceที่เป็นมาตรฐานของการแสดงสดที่ยอดเยี่ยมทั้งร้อง เต้น เอนเตอร์เทน แม้การแสดงเดี่ยวจะมากถึง 9 โชว์ตามจำนวนสมาชิก

ความลื่นไหลของแต่ละโชว์บางครั้งก็อาจจะมา ๆ หาย ๆ รวมทั้งการ rearrange เพลงใหม่อาจจะมีไม่มากสักเท่าไรนัก ระบบเสียงไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เสียงเบสดังเหลือเกินในบางเพลง เสียงร้องหลายตอนก็ได้ยินไม่ค่อยชัด รวมทั้งสำหรับเพื่อการแสดงรอบแรกวันที่ 3 ธ.ค. มีเหตุไฟสปอตไลท์ติดขัดจนกระทั่งทำให้ต้องหยุดโชว์กลางทางตั้งแต่เพลงที่ 2 แต่ก็ยังเป็นโชว์ที่ดูบันเทิงใจ ครบรส คุ้ม รวมทั้งสมกับที่แฟนคลับชาวไทยรอมานานมาก

เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ NCT127 ว่าเป็นวงที่เด่นรวมทั้งการันตีคุณภาพของPerformanceได้อยู่เสมอ
พิสูจน์ได้จากเสียงร้องเพลงรวมทั้งเสียงกรี๊ดดังสนั่นจนกระทั่งหูชาของแฟนคลับตลอดทั้ง 3 วัน จนกระทั่งศิลปินยิ้มแก้มปริชมไม่ขาดปาก

สมาชิก NCT127 ตบท้ายไว้ว่าจะกลับมาแฟนคลับชาวไทยกันอีกแน่ ๆ
ก็หวังว่าในคราวหน้าจะได้สถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่กว่านี้ เพื่อแฟนคลับทุกคนได้ชมศิลปินที่พวกเขารักกันได้อย่างทั่วถึง

ตัดแต้ม ใบขับขี่ ตั้งแต่ 1-4 คะแนน เช็กกันเลย ทำผิดในแต่ละข้อหาจะโดนตัดกี่คะแนน พร้อมแนะนำวิธีคืนคะแนน-เช็กสถานะ ช่องทางในการจ่ายค่าปรับจราจร

ตัดแต้ม ใบขับขี่

จากในกรณี สนช. โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือ ตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร เป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566

โดยกำหนดให้ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติทั้งหมด 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

สำหรับการตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ตาม 20 ฐานความผิด ถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที แบ่งเป็น 4 ระดับ เช่น

แบบที่ 1 “ตัดคะแนนทันทีที่ทำผิด”

ตัด 1 คะแนน

ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
ไม่สวมหมวกนิรภัย
ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย
ขับรถเร็วเกินกำหนด
ขับรถบนทางเท้า
ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
ไม่หลบรถฉุกเฉิน
ขับรถโดยประมาท น่าหวาดเสียว
ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลง ปิดบัง
ไม่ติดป้ายภาษี

ตัด 2 คะแนน

ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร
ขับรถย้อนศร
ขับรถระหว่างโดนพักใช้ หรือเพิกถอนใบขับขี่

ตัด 3 คะแนน

ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
ขับรถผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา
ขับรถชนแล้วหนี

ตัด 4 คะแนน

เมาแล้วขับ
ขับรถในขณะเสพยาเสพติด
แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

แบบที่ 2 “ตัดคะแนนเมื่อไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง” ค้างชำระ 1 ใบสั่ง ตัด 1 คะแนน
ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง
จอดในที่ห้ามจอด
ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ
ขับรถไม่ชิดซ้าย

หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือเพียงแค่ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภทเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่ง หากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในเวลา 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน หากถูกสั่งพักใช้ ใบอนุญาตขับขี่ อีกเป็นครั้งที่ 4 ต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

สามารถ ตรวจสอบ คะแนนใบสั่ง ได้ที่เว็บ E-Ticket PTM หรือแอปพลิเคชันขับดี (KHUB DEE) และสามารถ ชำระค่าปรับ ได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง

เรื่องต้องรู้ ก่อนเริ่มใช้ระบบ ตัดแต้ม ใบขับขี่

สำหรับผู้ขับขี่ จะมีคะแนนคนละ 12 คะแนน หากถูกตัดจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพัก ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน หากฝ่าฝืนขับขี่ในขณะถูกสั่งพักจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกเหนือจากนี้ หากถูกสั่งพักใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในเวลา 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักมากกว่า 90 วัน และหากถูกสั่งพักเป็นครั้งที่ 4 อาจจะถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท

คะแนนถูกตัด คืนคะแนนได้

ส่วนการคืนคะแนนมี 2 รูปแบบ คือ เมื่อครบ 1 ปีได้คืนอัตโนมัติ เมื่อเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกที่จัดปีละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มคะแนนได้ กรณีคะแนนเหลือ 0 จนถูกสั่งพักใบขับขี่ 90 วัน หากเข้าร่วมการอบรม จะไดคืน 12 คะแนนทันที เริ่ม 9 ม.ค. 66 ใช้ระบบตัดแต้มใบขับขี่ เช็กเกณฑ์ถูกหักคะแนน

ตัดแต้มใบขับขี่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เผยว่า

ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถกำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ม.ค. 66 เป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่ง กำหนดให้ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติ 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

ประกอบด้วย 1.ตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ตาม 20 ฐานความผิด ถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที แบ่งเป็น 4 ระดับ อาทิ ตัด 1 คะแนนเมื่อทำผิดฐานขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ตัด 2 คะแนน เมื่อฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ตัด 3 คะแนน เมื่อขับรถชนแล้วหนี ตัด 4 คะแนน เมื่อขับรถขณะเมาสุรา ขับรถในขณะเสพยาเสพติด แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ความผิดที่กฎหมายกำหนดให้ออกใบสั่ง 42 ฐานความผิด จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น อาทิ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ วิธีการตัดคะแนนดำเนินการโดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า

หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภทเป็นเวลา 90 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่ง หากฝ่าฝืนขับรถขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 จะต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

“คะแนนที่ถูกตัดไปในแต่ละครั้ง จะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้นๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่แต่ได้รับเพียง 8 คะแนน หากขอเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกเมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขจะได้รับคืนทั้งหมด 12 คะแนน สามารถตรวจสอบคะแนนใบสั่งได้ที่เว็บไซต์ E-Ticket PTM หรือแอปพลิเคชันขับดี (KHUB DEE) และสามารถชำระค่าปรับได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

Cr. ภาพที่ 3-6  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นาทีนี้แม้ต้องพูดถึงดารา หน้าใหม่ ดาวรุ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแล้วนั้น นักแสดง มุนซังมิน คงจะเป็นหนึ่งในรายชื่อ ที่ต้องถูกนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะเหตุว่าจาก บทบาท องค์ชายซองนัม ในซีรีส์ Under The Queen’s Umbrella

ที่เขาได้แสดงนั้น นอกเหนือจากที่จะได้รับความรัก อย่างล้นหลาม จากทักษะ การแสดงของเจ้าตัวที่ยอดเยี่ยมแล้วนั้น แต่รูปร่างแล้วก็หน้าตาที่สะดุดตาออกมาท่ามกลางนักแสดงมากมาย ก็ได้รับความสนใจจากแบรนด์ผลิตภัณฑ์ไปได้ไม่น้อย กระทั่งล่าสุด Moon Sang Min ได้รับข้อเสนองาน โฆษณามากกว่า 20 แบรนด์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภายหลังความดังของ มุนซังมิน

ที่เริ่มถูกกล่าวถึงในวงกว้างมากขึ้นนั้น ก็ดูราวกับว่าเจ้าตัวจะทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาต่าง ๆ ดูครึกโครมยิ่งขึ้น

กระทั่งล่าสุดได้มีแบรนด์เครื่องสำอางคัดตัวนักแสดง Moon Sang Min เป็นนายแบบหลักของแบรนด์ เพราะทางแบรนด์เครื่องสำอาง มักเติบโตขึ้นจากการส่งเสริมของลูกค้าที่อยู่ในช่วงอายุ 18-34 ปี

โดยเหตุนั้นทางแบรนด์ก็เลยตั้งใจทำกลยุทธ์เพื่อสร้างการรับทราบแล้วก็เพื่อเพิ่มความน่าไว้ใจของแบรนด์ ด้วยการคว้าตัวนักแสดงดาวรุ่งอย่าง Moon Sang Min มาส่งเสริมกลยุทธ์นั้นนั่นเอง

โดยจากการรายงานล่าสุด ทางด้านของ Awesome Entertainment ต้นสังกัดของ มุนซังมิน กำลังอยู่ในช่วงเจรจาปรึกษาเกี่ยวกับความร่วมมือกับบริษัทแล้วก็แบรนด์ผลิตภัณฑ์กว่า 20 สาขา

ที่หลากหลาย แล้วก็คาดว่างานในคราวนี้จะสามารถส่งเสริมกิจกรรมในตลาดออนไลน์แล้วก็ออฟไลน์ได้ต่อไป ซึ่งทางด้านต้นสังกัดของMoon Sang Min ก็ได้ออกมาเผยผ่านสื่อว่า “ขณะนี้เรากำลังได้รับความรักจากแบรนด์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์แฟชั่น ร้านค้าออนไลน์ เกม เบเกอร์รี่ แบรนด์นาฬิกา และธุรกิจด้านการศึกษา

ซึ่งจากความสนใจที่ได้รับอย่างท่วมท้นนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะบทบาทที่ มุนซังมิน ได้รับในซีรีส์อย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเพราะหน้าตาอันบริสุทธิ์และสไตล์ฮิป ๆ ของเขาด้วยเช่นกัน” แล้วก็แน่นอนว่าอนาคตของ Moon Sang Min ที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นไอคอนหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมข้างต้น ก็เลยน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งปัจจุบันนี้

มุนซังมิน เริ่มเดบิวต์เป็นนักแสดงแบบเต็มตัวเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ผ่านเว็บดราม่าเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็น 4 Reason Why I Hate X-Mas (2019), The Colors of Our Time (2020) แล้วก็ The Mermaid Prince: The Beginning (2020) กระทั่งเขาได้พัฒนา ความสามารถเกี่ยวกับด้านการแสดงมา เรื่อย ๆ แล้วก็

เริ่มมีชื่อเสียงเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผ่านซีรีส์ My Name (2021) ก่อนที่จะในปีนี้เขาจะก้าวกระโดด ขึ้นมารับบทนำเป็น ครั้งแรก ในซีรีส์ Under The Queen’s Umbrella (2022) แล้วก็ได้รับความรัก อย่างล้นหลาม กระทั่งผลงานนี้ นับเป็น อีกหนึ่งก้าวการบรรลุเป้าหมายของเขาเลยก็ว่าได้

เปิดวาร์ป มุนซังมิน ชายหนุ่มหล่อน้องใหม่ หน้าใสชวนใจละลาย

Moon Sang Min เกิดช่วงวันที่ 14 เดือนเมษายน ปี 2000 ช่วงนี้อายุ 22 ปี กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยซองคยองควาน (Sungkyunkwan University) สาขาการแสดงและศิลปะ (Acting and Arts Department) อีกทั้งเขายังได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยด้วย

ปัจจุบันซังมินเป็นนายแบบแล้วก็นักแสดงภายใต้สังกัด Awesome Entertainment ร่วมกับนักแสดงมีชื่อเสียงอย่าง พัค ซอจุน แล้วก็ อี ฮยอนอู อีกด้วย

ซังมินเข้าแวดวงในปี 2018 ในช่วงเวลาที่อายุได้ 18 ปี โดยเปิดฉากด้วยการเดินแบบให้กับคอลเล็คชั่น Fall/Winter ของแบรนด์ Caruso ตามมาด้วยคอลเล็คชั่น Fall/Winter ของแบรนด์ Sewing Boundaries แล้วในปี 2019 เขาก็แสดงตัวผ่านหน้าหน้าจอเป็นครั้งแรกในรายการเรียลลิตี้โชว์ Real High Romance 2

ก่อนจะได้ฝากผลงานการแสดงเรื่องแรกในชีวิต คือ เว็บดราม่าเรื่อง 4 Reasons Why I Hate Christmas ซึ่งจัดว่าสอบผ่านเลย

ในปี 2020 ซังมินมีผลงานการแสดงสม่ำเสมอถึง 2 เรื่อง ซึ่งก็คือซีรีส์เรื่อง The Colors of Our Time แล้วก็เรื่อง The Mermaid Prince: The Beginning
ซึ่งเรื่องนี้เขาได้อวดหุ่นเท่ ๆ ด้วย เพราะเหตุว่ารับบทเป็นนักว่ายน้ำนั่นเอง ทั้งสองเรื่องกล่าวได้ว่าปัดกวาดเรตติ้งไปไม่น้อย

ประกอบกับหน้าหวาน ๆ ไหล่กว้าง รูปร่างสูงของซังมิน เลยทำให้เขากลายเป็นชายหนุ่มดอกไม้ที่คว้าหัวใจสาว ๆ ไปได้มากเลย ในปี 2021 ที่ผ่านมา มุน ซังมิน ก็ได้ร่วมแสดงในซีรีส์สายดาร์กอย่างเรื่อง My Name

ร่วมกับนักแสดงดังเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็น ฮัน โซฮี, อัน โบฮยอน, พัค ฮีซุน แล้วก็อีกมากมาย
โดยเขารับบทเป็น ‘โก กอนพยอง ตำรวจน้องเล็กในทีมปราบยาเสพติด ที่ถึงจะไม่มีบทบาทมากสักเท่าไรนัก แต่ออกมาแต่ละทีก็ทำเอาใจละลาย แล้วก็ดึงดูดสายตาของแฟน ๆ มากมายเลย ที่สำคัญคือซีรีส์เรื่องนี้เรตติ้งดีเยี่ยม กระทั่งทำให้ มุน ซังมิน ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

แล้วก็สำหรับในปี 2022 นี้ ชายหนุ่มดอกไม้คนนี้

เขาก็มีซีรีส์รอคอยจ่อคิวลงหน้าจอให้ได้รับชมกันถึง 2 เรื่อง คือ Duty After School แล้วก็ Under The Queen’s Umbrella ซึ่งในเรื่อง Under The Queen’s Umbrella นี้เขาได้รับบทนำด้วย แต่เท่าที่เห็นผลงานต้องบอกเลยว่า หนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา

ไลฟ์สไตล์ของ มุน ซังมิน

ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ของเขานั้น ชายหนุ่มคนนี้คงจะไม่ถนัดเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า แต่ถูกใจถ่ายภาพตนเองผ่านกระจก ซึ่งก็น่ารักไปอีกในลัษณะหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านี้เขายังถูกใจถ่ายภาพทิวทัศน์แล้วก็ฟ้าสีสวย ๆ มาลงในอินสตาแกรมให้แฟนคลับได้ดูกันอีกด้วย

รูปถ่าย “เสือดาวหิมะ” บนเทือกเขาหิมาลัย ถูกวิเคราะห์ว่าเป็น ภาพตัดต่อ หลังมีจุดน่าสงสัย มากมายในรูปภาพ แล้วก็ชื่อของ ช่างถ่ายรูปไม่เป็นที่รู้จักในวงการ

รูปถ่าย “เสือดาวหิมะ” บนเทือก เขาหิมาลัย ของ “กิตติยา พาว์โลว์สกี้” (Kittiya Pawlowski) เรียกได้ว่าเป็นรูปถ่าย ที่ทำเอาเป็น ที่ฮือฮาไป ทั้งโลก เพราะเจ้า เสือดาวหิมะ ไม่ออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ เลอโฉมนานกว่า 3 ทศวรรษ เพราะมีนิสัยที่ขี้เอาย แล้วก็ พรางตัวเก่งมาก

การที่ กิตติยา สามารถเก็บภาพของ “เสือดาวหิมะ” ได้นั่นทำให้หลายคนนั้น เห็นว่าเธอช่างโชคดี เป็นอย่างมาก ทั้งรูปถ่ายของเธอยังกลายเป็นไวรัลบนสื่อระดับนานาชาติมากมาย พร้อมทั้งถูกยกย่องให้เป็นรูปถ่ายที่น่าชื่นชม เป็นอย่างมาก

เสือดาวหิมะ Snow leopard

เสือดาวหิมะ Snow leopard เป็นสัตว์ในวงศ์ Felidae ชนิดหนึ่ง ที่มีสถานภาพ ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Uncia uncia นับเป็นสัตว์ชนิดเดียว ที่อยู่ในสกุล Uncia มีลำตัวแล้วก็หัวยาว 90-135 เซนติเมตร ความยาวหาง 90 เซนติเมตร สูงจากเท้าถึงหัวไหล่ 60 เซนติเมตร น้ำหนักในตัวผู้ 44-55 กิโลกรัม ตัวเมีย 35-40 กิโลกรัม

มีขนยาว หนาแน่น สีพื้นเทา อมเหลือง บริเวณสีข้างจะอมเหลืองอ่อน ๆมีลายดอกเข้ม ทั่วตัวคล้ายเสือดาว ช่วยให้ดูกลมกลืนกับ สภาพแวดล้อมที่อาศัยซึ่งเป็น ภูเขาหิน แล้วก็ หิมะปกคลุม ลายดอกบริเวณหลังแล้วก็สีข้างมีขนาดใหญ่ ส่วนบริเวณหัวแล้วก็ขาเป็นลายจุดขนาดเล็ก บริเวณคาง อกแล้วก็ท้องเป็นสีขาว ปลอดไม่มีลาย ลายบริเวณหลังแล้วก็สีข้างจะจางกว่าบริเวณอื่นซึ่งแตกต่างจาก เสือลายจุดชนิดอื่นที่มักมีลายที่หลังเข้มกว่า

หางด้านบนจะเป็นวงสีดำ ด้านล่างของหางเป็นจุดอ่อน ๆเปรียบเทียบลายดอกของเสือดาวหิมะกับของเสือดาวแล้ว ดอกของเสือดาวหิมจะห่างกันมากกว่า แล้วก็ไม่ชัดแจ๋วเท่า มีกล้ามเนื้อหน้าอก แล้วก็ หัวไหล่ที่แข็งแรง อุ้งเท้ากว้างแข็งแรงแล้วก็ปกคลุมด้วยขน ช่วยให้เพิ่มพื้นที่ผิวแล้วก็กระจายน้ำ หนักตัวลงบนหิมะได้อย่างสม่ำเสมอ แล้วก็ช่วยปกป้องอุ้งเท้าจากความเย็นของหิมะได้ดี มีโพรงจมูกใหญ่

มีการกระจาย พันธุ์อย่างกว้างขวาง บนภูเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมในภูมิภาคเอเชียกลาง อาทิเช่น ประเทศมองโกเลีย, ภูฐาน, ทิเบต, จีน, ประเทศอัฟกานิสถาน, ประเทศรัสเซีย, ประเทศอินเดีย, เนปาล โดยพบที่ทิเบตแล้วก็ จีน มากที่สุด มีชนิดย่อย ทั้งหมด 2 ชนิด คือ U. u. uncia พบในประเทศมองโกเลีย แล้วก็ ประเทศรัสเซียแล้วก็ U. u. uncioides พบในจีนแล้วก็เทือกเขาหิมาลัย ซึ่งที่อยู่ของทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่เชื่อมต่อติดกัน

มีพฤติกรรมแล้วก็ ชีววิทยาเป็นสัตว์ ที่มีนิสัยขี้อาย มักหลบเมื่อพบกับมนุษย์ สามารถกระโดดได้ไกลถึง 15 เมตร มีรายงานว่า การนอนกลางวันถูกใจในการหลบ ไปนอน ในรังของแร้งดำหิมาลัย (Aegypius monachus) โดยการกระโดดขึ้นไปเลยไม่ใช้การปีน

ออกล่าเหยื่อในเวลาเย็น หรือเช้าตรู่ โดยล่าสัตว์ทุกขนาดทั้งสัตว์ใหญ่เล็ก โดยปกติแล้วจะล่าเหยื่อแล้วก็ อยู่ตามลำพัง ยกเว้นในฤดูสืบพันธุ์ ที่อาจอยู่เป็นคู่ เมื่อล่าเหยื่อได้แล้ว อาจจะกินไม่หมดในครั้งเดียว อาจใช้เวลานานถึง 3-4 วันกว่าเหยื่อจะหมด นานที่สุดคือ 1 สัปดาห์

เสือดาวหิมะมักอยู่ ในพื้นที่เล็ก ๆ ในระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน ก่อนที่จะเดินทางไกลไปอีกที่หนึ่ง ระยะทางที่เดินทาง วันหนึ่งเฉลี่ยราว 1 กิโลสำหรับตัวผู้แล้วก็ 1.3 กิโลสำหรับตัวเมีย บางครั้งอาจเดินทางได้ไกลถึงวันละ 7 กิโล

ในอดีตมีการล่าเสือดาวหิมะเพื่อทำเป็นเสื้อขนสัตว์ โดยมีราคาซื้อขาย มากถึงตัวละ 50,000 ดอลลาร์ แล้วก็มีการล่า ถึงปีละ 1,000 ตัว จนถึงในปี ค.ศ. 1952 ทางรัฐบาล ประเทศอินเดีย ก็เลยได้ออกกฎหมาย คุ้มครองขึ้นมา แต่ปัจจุบันนี้ก็ยัง มีการลักลอบ ในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยเหมือนกัน ปัจจุบันนี้ คาดการว่ามีปริมาณเสือดาวหิมะ เหลืออยู่ในธรรมชาติประมาณ 4,000 ตัว

กิตติยา พาว์โลว์สกี้ เขียนบทความ ลงใน เว็บไซต์ส่วนตัว

ว่าเธอถ่ายรูปนี้ได้ที่ เนปาล โดยเธอเดินทางขึ้นเขา ไปกับไกด์ท้องถิ่น ต้องเดินเท้ากว่า 165 กม. กว่าจะได้ภาพกลุ่มนี้มา เธอเล่าเรื่องการเดินทางไปที่นั่นอย่างละเอียด แต่พอถึงจุดที่เจอเสือกลับเล่าแบบรวบรัด ไม่ลงรายละเอียดมากนัก

หลังจากกลายเป็นไวรัล ไปได้ไม่นาน ก็เริ่มมีคนตั้งข้อสงสัยเกียวกับรูปถ่ายเสือดาวหิมะบนเทือก เขาหิมาลัยของเธอ ว่ามีบางอย่างที่แปลกไป อาทิเช่น รูปถ่ายดูดีแล้วก็สมบูรณ์แบบเกินไปราวกับจัดวางตามใจสั่ง บางภาพการตกของแสงแล้วก็เงาดูแปลก แล้วก็เห็นคอลลาจในรูปภาพ ในวงการช่างถ่ายรูปสัตว์ป่า แล้วก็ภูเขา ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อกิตติยามาก่อน ทางด้านของผู้เชี่ยวชาญด้านเสือดาวหิมะบอกว่าโอกาสที่จะได้พบเสือดาวหิมะบริเวณธารน้ำแข็งนั้นไม่มี เพราะไม่มีอาหารให้มันกิน

อีกหนึ่งข้อสังเกตที่แปลก สำหรับช่างถ่ายรูปที่ชื่อ กิตติยา มีแค่เพียง 4 รูปถ่าย ซึ่งก็คือภาพเซ็ตนี้ แล้วก็ไม่มีประวัติของเธอ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องแปลก จะมีช่างถ่ายรูปสักกี่คนที่ไม่ต้องการ โชว์ผลงานของตนในแกลเลอรี

ส่วนใน อินสตาแกรม ที่มีผู้ติดตาม 5 หมื่นคน

ก็มีรูปแค่ 5 รูป คือภาพเสือดาวเซ็ตนี้ แล้วก็อีกภาพเป็นภาพตัวเธอเองยืนถือกล้อง ฉากหลังเป็นภูเขา ที่ปกคลุมด้วยหิมะ ซึ่งภาพนี้ถูกใช้เป็นรูปโปรไฟล์ด้วย พอเอาไปวิเคราะห์ก็พบว่าเป็นภาพตัดต่อ มีหลายจุด ให้จับผิดได้ ทั้งฉากหลัง รูปร่าง ทรงผม เลยเกิดคำถามว่าถ้าหากเธอมีตัวตนจริงแล้วเพราะเหตุใดต้องตัดต่อรูป

ยิ่งกว่านั้น รูปถ่ายของ กิตติยา มีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งนกพิราบที่บินอยู่เหนือเทือกเขา หิมาลัย การเติมหิมะเข้าไปเพื่อ ดูมีสีขาวโพลนดัง กับอยู่บนยอดเขาแต่ความจริง แล้วกลับเป็นเพียงแค่เขาบริวารที่อยู่โดยรอบเท่านั้นเอง ทั้งเมื่อวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว พบว่ารูปถ่ายเป็นภาพ ที่ถูกถ่ายจากกล้อง ที่เธอใช้จริง แต่ที่น่าแปลกคือวันที่ของภาพที่ไม่ตรงแล้วก็ เจาะจงเป็นปี 2018

ตอนนี้มี คำถามมากมาย ที่ยังไม่มีคำตอบ อาทิเช่น กิตติยามีตัวตนจริงหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วใครสร้างเธอขึ้นมา แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ อินสตาแกรม แล้วก็เพจเฟซบุ๊ก ของกิตติยาล้วนถูกปิด ไปหมดแล้ว